วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Discovering me…


Discovering me…
for Myself and Everyone I Know

Traveling is one of the best teachers
who help me discovering my spirit
and my soul answering the call to who I am,
what I am and where I’m coming from

Since I’ve traveled to many several
countries in Southeast Asia and especially
in the Mekong countries and
finally I’ve found my own ‘cultural root’,
deeply realizing that
I’m a daughter of Isaan community,
a woman of Asia,
the owner of Eastern civilization
and a young citizen of the ‘changing world’
I’m a dreamer and a believer of this era.

Wandering around, meeting and talking to the locals
and listening to their stories.
I’ve gained a deeper appreciation of my
culture and people of their simplicity of
relaxed, slow, harmonious life.
And I can’t wait to tell other about this.

I am dreaming of leaving my work
to lying in the happy hammock
and relax under the mango tree,
telling those wonderful stories
through the eyes of mine as a young
blood writer and an aspiring photographer.

In the end
my heart
will find
home of
Isaan community

กวีเมืองหลวง

เสียงกระซิบน้อยๆในเมืองใหญ่ ฝากกู่ก้องผ่านลำไพรและขุนเขา

ให้หมู่เพื่อนพี่น้องของพวกเรา จงก้าวต่อกระทืบเท้าเดินถึงชัย

ผ่านลำน้ำทุ่งหญ้าและฝ่าฝน อดและทนต่อความเจ็บและรอยช้ำ

อาจมีบ้างรอยเลือดเหมือนโดนยำ จงกล้าทำท้าพิสูจท์ต่อความจริง

เม็ดเหงื่อไคลใหลย้อยลงใบหน้า ทาบทาริ้วบนหน้าผากที่แดดเผา

แต่แววตาพวกหมู่เจ้ายังไม่เพลา ยังคงก้าวเดินย่ำตรงทางโคลน

แสงแดดทอประกายส่องระหว่างเขา คงอาจช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า

ฉีกฟันยิ้มความสดใสของแววตา ยิ้มร่าเริงของเด็กน้อยยังคอยเรา

กมล หอมกลิ่น

บางเขน กรุงเทพ

26 ต.ค.52

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

Our Journey Has Begun!


......บทกวีแด่ความว่างเปล่า....
เป็นบทกวีที่ฉันบรรจงแต่ง
บนเส้นแบ่งแห่งขอบฟ้าและความฝัน
บนผืนโลกที่มีฉันยืนฝ่าฟันเพื่อทวงวันและเวลาให้กลับคืน....
ฉันจะยืนหยัดทรนงบนผืนดินใต้ฟ้ากว้างแห่งนี้

ตราบที่ฉันยังมีลมหายใจ
ฉันจะอยู่เคียงข้างบุพการีผู้มีพระคุณต่อฉัน
ตราบที่สมองฉันยังคงทำงาน

...ขอบคุณนะสำหรับกำลังใจจากเธอ..
ฉันจะต้องเดินฟันฝ่าต่ออุปสรรคร้อยพันเพราะ
ฉันรู้ว่าโลกมิได้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวตา
ฉันจะมองดูดาวแต่เท้าฉันจะติดดิน

สองเท้าฉันจะก้าวย่ำ สำหรับปัจจุบันที่เป็นอยู่
แต่สายตาจะมองดาวเพื่อความฝันและจินตนาการ
สองแขนจะคว้าไขว่เพื่อโลกที่สันติและหัวใจจะโอบล้อมด้วยไออุ่นแห้งดวงใจ
ขอบคุณนะกับแววตาที่เป็นมิตรและห่วงใย
กมล หอมกลิ่น

14.08 น.
12 มิถุนายน 2550
เซียร์ รังสิต
ฉันมองดูเงาเมฆฝนในคำวันนั้น
หมู่เมฆลอยเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ
สายลมพลิ้วไหวไหวเอนเป็นระลอก
ใบหน้าฉันต้องลมปะทะมวลอากาศที่พัดผ่าน
นึกถึงตอนที่ฉันเป็นเด็ก
เห็นตัวเองวิ่งเล่นถลาตามผืนหญ้า
มีดอกไม้ ดอกหญ้า ดอกดิน เป็นเพื่อน
หมู่แมลง นก หนู ยิ้มทักทายให้กับฉัน
ไม่นานแม่ฉันก็เรียกกลับเถียงนา
กลัวว่าฟ้าฝนมันจะถล่มฉันจนเป็นไข้
.....เป็นเรื่องราวตอนเด็กที่ฉันเล่าสู่เธอฟัง
แล้วเธอล่ะ ฟ้า ฝนเคยหยอกล้อให้เธออมยิ้มหรือเปล่า?
วันคืนผ่านไป ขอให้เธอเข้มแข็งนะ

กมล หอมกลิ่น
4 ก.ค 50